น้ำท่วมเข้ารถเปียกพรม แจ้งเคลมได้นะครับ
ประกัน 3+ คุ้มครองน้ำท่วมก็มีครับ แต่ต้องอ่านเงื่อนไขก่อนการทำนะครับ แต่ว่าชั้น 1 ที่ผมทำมีแน่นอนครับ เคลมมาแล้ว อิอิ
ประกัน 3+ คุ้มครองน้ำท่วมสวัสดีครับ เมื่อวาน 28/08/2563 ฝนตกใหญ่เลย น้ำท่วมหนักมากในหมู่บ้านผม เอง ก็เลยคิดมาได้ว่า
เมื่อก่อนตอนที่บ้านผมทำบ้านใหม่ๆต้องเอารถไปจอดข้างนอกเพราะว่าเอาเข้ามาจอดข้างในบ้านไม่ได้แต่ว่าตอนกลางคืนเนี่ยดันมีฝนตกหนักมากตื่นเช้ามาเนี่ยน้ำก็หายไปหมดแล้วครับ แต่ว่ารถที่จอดอยู่ ข้างนอกบ้าน น้ำเข้าไปข้างในรถผม เปียกหมดเลยทำยังไงดี
วันนี้จะมาเสนอวิธีแก้นะครับสำหรับท่านไหนที่จอดไว้ข้างนอกบ้านแล้วก็น้ำเข้ารถเหมือนผม แต่ว่าโชคดีทำประกันชั้น1 ไว้หรือทำประกัน 2+ 3+ ไว้ก็สามารถเคลมได้นะครับทั้งนี้ให้ดูตามเงื่อนไขกรมธรรม์ด้วยนะครับ เดี๋ยวผมจะมาบอกว่าวิธีการเคลมแจ้งยังไงนะครับ
อย่างแรกให้เราดูก่อนนะครับว่าประกันของเราเป็นประกันชั้น 1 หรือเปล่า ถ้าเป็นประกันชั้น 1 แน่นอนครับเคลมได้ทั้งนี้ขึ้นกับอยู่เงื่อนไขแต่ละบริษัทนะครับแต่ปกติแล้วเคลมได้นะครับ สำหรับประกันชั้น 2+ 3+ จะมีประกันที่แบบว่าคุ้มครองน้ำท่วมด้วยนะครับอันนี้ให้ดูตามเงื่อนไขกรมธรรม์นะครับ
กรณีที่เกิดขึ้นเหมือนผมคือน้ำเข้ารถนะครับแล้วก็ผมเปียกหมดเลยอย่างแรก ให้เราทำการแจ้งเคลมก่อนครับ แล้วก็บอกว่าจอดรถไว้นะครับแล้วน้ำท่วมคือเราพูดความจริงไปเลยนะครับ เพราะว่าเราจอดรถไว้จริงๆ แล้วก็ฝนตกหนักมากน้ำท่วมเข้ารถนะครับ ทำให้พรมเสียหายนะครับ เวลา เวลาแจ้งอย่าโกหกนะครับให้เราพูดเรื่องจริงไปเลย
ครั้งนี้นะครับเล่าจากประสบการณ์ของผม ตอนที่แจ้งเคลม ผมก็แจ้งไปตามที่เขียนไว้ข้างบนนะครับ ก็คือว่าจอดรถไว้หน้าบ้านแต่ว่าเมื่อคืนฝนตกหนักมากน้ำท่วม ทำให้น้ำเข้ารถทำให้พรมเปียกนะครับ เจ้าหน้าที่เคลมก็จะถามว่าฝนตกหนักมากน้ำท่วมเลยเหรอครับ มีร่องรอยของน้ำไหมทั้งนี้เนี่ยเราก็แจ้งไปนะครับว่าน้ำท่วมในระดับไหนนะครับ จริงๆแล้วเลยใต้พื้นท้องรถขึ้นมานิดเดียวก็เข้าแล้วนะครับ หรือถ้ามีภาพถ่ายเก็บไว้นะครับก็เอามาแจ้งกับพนักงานเคลมได้นะครับ ก็จะได้ง่ายขึ้น
เมื่อพนักงานเคลมหรือเจ้าหน้าที่ที่เราแจ้งนะครับ เรียบร้อยแล้วเนี่ยเขาก็จะออกใบเคลมมาให้นะครับ สำหรับของผมเองเนี่ยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าพี่จะรับเป็นเงินไปทำการซักพรมเลยไหมนะครับ หรืออีกกรณีหนึ่งก็คือว่าให้เราไปอู่ที่อยู่ในสังกัด หรือว่าอู่ที่อยู่ในเครือนะครับ แล้วก็ทำการให้เขาซักพรมให้เขาก็จะแจ้งเป็นการเคลมให้นะครับ เป็นกรณีหลังนี้เรา ไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายนะครับ ในกรณีแรกเนี่ยอาจจะต้องออกค่าใช้จ่ายก่อน แล้วทางบริษัทจะเป็นคนเบิกมาให้นะครับ
ผมก็ไม่แน่ใจว่าค่าซักพรมหรือว่าค่าทำความสะอาดพรมเนี่ยเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ดังนั้นผมเลือกแบบที่ 2 นะครับก็คือว่าถามไปเลยว่าอู่ที่ไหนใกล้ๆนะครับ แล้วก็อยู่ในเครือของบริษัทประกันนั้นๆสามารถซักพรมได้นะครับ ให้เขาแนะนำมาหรือโทรสอบถามกับ Call Center ก็ได้ แล้วก็ทำการนัดเอารถเข้าไปทำการซักพรมนะครับเท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อยแล้วนะครับ
ประกันอัคคีภัยบ้าน มีภัยจากน้ำ หรือว่าน้ำท่วมด้วย เราแจ้งได้เหมือนกัน
อีกส่วนหนึ่งก็คือประกันอัคคีภัยนะครับ ในกรณีที่บ้านทำประกันอัคคีภัยไว้ แล้วก็มีประกันภัยในส่วนของตัวน้ำท่วมด้วย ทั้งนี้เนี่ยประกันภัยน้ำท่วมตามเงื่อนไขกรมธรรม์เนี่ยจะต้องประกาศก่อนว่าเป็นเขตภัยพิบัตินะครับ แต่ว่าตอนนี้เนี่ยไม่แน่ใจว่าบางบริษัท อาจจะมีการปรับแล้ว ก็คือน้ำท่วมก็สามารถเคลมได้นะครับ
อีกอันนึงก็คือในส่วนของประกันอัคคีภัย ทีเนื่องจากน้ำนะครับในกรณีที่บ้านของท่านนะครับทำประกันอัคคีภัยไว้ แต่ว่ามีเหตุน้ำรั่วนะครับลงมานะครับ ทำให้เสียหายนะครับ ไม่ว่าจะเป็นฝ้านะครับเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือส่วนอื่นๆนะครับ ที่เกิดจากน้ำนะครับก็คือน้ำรั่วลงมาจากหลังคานะครับทำให้เสียหายหรือมีความเสียหายเกิดขึ้นนะครับแบบนี้ก็สามารถแจ้งเคลมประกันอัคคีภัยได้นะครับ ในส่วนของการที่แจ้งเครม ประกันอัคคีภัย เนื่องจากน้ำนะครับทางผมยังไม่เคยลองนะครับเพราะว่าที่บ้านยังไม่มีอะไรรั่วเสียหายนะครับ แต่ว่าถ้ามีแล้วนะครับจะมาอัพเดทให้ฟังกันนะครับว่ามีวิธีการเคลมยังไงนะครับแล้วก็มีเงื่อนไขในการคุ้มครองยังไง
ขอบคุณครับ